คอนกรีตผสมเสร็จ CPAC

Reference : P21-0010

คอนกรีตผสมเสร็จ CPAC คอนกรีตคุณภาพสูง สำหรับงานโครงสร้างทั่วไป ที่ได้รับการออกแบบส่วนผสมด้วยทีมวิศวกรซีแพค เริ่มจากการคัดสรรวัตถุดิบและควบคุมคุณภาพการผลิตในทุกขั้นตอน 

ราคา บาท ค่าจัดส่ง บาท



รายละเอียดผลิตภัณฑ์
คอนกรีตปกติที่ใช้โดยทั่วกันมาตรฐานซีแพค ถูกออกแบบให้มีกำลังอัดตั้งแต่ 180-400 กก./ตร.ซม. (โดยทั่วไปแล้ว กำลังอัดของคอนกรีต จะพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์ ต้องใช้เวลา 28วัน นับตั้งแต่ผลิต) เหมาะสำหรับการนำไปใช้ในโครงสร้างทั่วไป เช่น เสา คาน ฐานราก พื้น เป็นต้น การเลือกใช้ คอนกรีตผสมเสร็จ เป็นการลดปัญหาโครงสร้าง ที่เกิดจาก ส่วนผสมที่ไม่แน่นอนและมีกำลังอัดที่ไม่ได้มาตรฐาน จากการผสมคอนกรีตเอง



คุณสมบัติเด่น
• มีกำลังอัดให้เลือกใช้ ตั้งแต่ 180-400 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
• มีค่ายุบตัว มีให้เลือกใช้ให้เหมาะกับโครงสร้างและวิธีการเท 3 ระดับ คือ 7.5 /- 2.5ซม. 10.0 /- 2.5ซม. 12.5 /- 2.5ซม.
• ลดปัญหาการผสมมือที่มีส่วนผสมที่ไม่แน่นอน และได้กำลังอัดไม่เป็นไปตามที่ออกแบบวุ้น


คอนกรีตผสมเสร็จ CPAC ดีกว่าผสมมือเองอย่างไร 



การนำ CPAC ไปใช้งาน


การถอดแบบคอนกรีตผสมเสร็จ
วิธีการถอดแบบหล่อคอนกรีตและค้ำยันก่อสร้าง จะทำได้ต่อเมื่อคอนกรีตมีกำลังอัดขั้นต่ำต่อไปนี้ 
• สำหรับแบบหล่อด้านข้าง เสา คาน กำแพง ฐานราก = 50 KSC (Cylinder) 
• สำหรับแบบหล่อท้องพื้นและท้องคาน = 140 KSC (Cylinder) 



การเท คอนกรีต และการทำให้แน่น
การเทคอนกรีต Placing และการทำให้แน่น (Compacting) เป็นงานที่กระทำควบคู่กันไปตลอดเวลา วัตถุประสงค์หลักของการเทคอนกรีตคือ การป้องกันไม่ให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว และทำคอนกรีตให้แน่นอย่างทั่วถึง การเทคอนกรีตและการทำคอนกรีตให้แน่นอย่างถูกวิธี และบรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้น มีเทคนิคการดำเนินงานดังนี้
• หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายตำแหน่งของคอนกรีตโดยใช้เครื่องสั่นคอนกรีต
• ควรเทคอนกรีตทีละชั้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ลาดเอียง ไม่ควรเทสุมเป็นกอง
• ความหนาของการเทแต่ละชั้น ควรเหมาะกับกำลังของเครื่องสั่นคอนกรีต เพื่อให้สามารถไล่ฟองอากาศออกจากส่วนล่างของแต่ละชั้น
• งานเทคอนกรีตสำหรับผนัง ควรเทให้หนาเป็นชั้น ความหนาชั้นละประมาณ 30-45ซม. ควรเริ่มเทคอนกรีตจากมุม หรือจุดท้ายสุดของแบบผนัง
• อัตราการเทคอนกรีต และการสั่นคอนกรีต ควรมีความสมดุลกัน
• ควรทำการสั่นคอนกรีตให้แน่นเสียก่อนในแต่ละชั้น ก่อนที่จะเทคอนกรีตในชั้นถัดไป
•โครงสร้างในแนวดิ่ง เช่น เสา และผนัง ไม่ควรเทคอนกรีตเร็วกว่า ความสูง 2 เมตรต่อ ชั่วโมง และควรเทอย่างต่อเนื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดรอยขณะเทคอนกรีต Cold Joint
• หลีกเลี่ยงการเทเสาคอนกรีตกระทบกับแบบหล่อหรือเหล็กเสริมโดยตรง กรณีโครงสร้างที่มีความสูง เช่น เสา ผนัง คานลึก ปล่องลิฟท์ ควรใช้ท่อเทคอนกรีต Tremie or Pipe เพื่อป้องกันการแยกตัว
• โดยทั่วไปควรเทคอนกรีตลงในแนวดิ่ง แต่สำหรับการเทคอนกรีตในแนวนอน หรือแนวลาดเอียง ต้องเทคอนกรีตจากจุดต่ำสุด และให้คอนกรีตดันตัวขึ้นมาตามแบบหล่อ ควรเทคอนกรีตอย่างต่อเนื่องกัน
• ไม่ควรให้ระยะตกอิสระของคอนกรีตสูงกว่า 1.5ม.
• หากต้องการหล่อคอนกรีต เสา ผนัง คาน พื้นพร้อมกัน ทำได้โดยเทคอนกรีตส่วนเสาและผนังทิ้งไว้ก่อน ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วจึงเทคอนกรีตในส่วนของคานและพื้นต่อไปได้ แต่ต้องระวังอย่างให้กระทบกระเทือนต่อเสาและผนังที่ยังไม่แข็งตัวดี


คำแนะนำ และข้อควรระวัง
• ห้ามสัมผัสคอนกรีตหรือฝุ่นคอนกรีตโดยตรง เนื่องจากเป็นสารละคายเคือง อาจก่อให้เกิดอันนตรายกับทางเดินหายใจ ผิวหนังและดวงตา ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น อุปกรณ์ป้องกันดวงตา หน้ากากกรองฝุ่น สวมใส่เสื้อผ้า รองเท้า ถุงมือที่กันน้ำได้
• ฝุ่นคอนกรีตอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าทำงานคอนกรีตไม่ถูกต้อง หรือ การตัดคอนกรีต หรือ การขัดผิวหน้า ดังนั้นในกรณีที่ฝุ่นเกิดขึ้น ให้กำจัดฝุ่นออกด้วยน้ำ และ กวาดให้สะอาด โดยใส่อุปกรณ์ป้องกัน ได้แก่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา สวมใส่เสื้อผ้า รองเท้า หน้ากากกรองฝุ่น ถุงมือ
• หากสัมผัสคอนกรีตหรือฝุ่นคอนกรีต ควรล้างออกด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก ๆ ทันทีถ้าเกิดอาการระคายเคือง หรือแพ้ ให้รีบปรึกษาแพทย์
• คอนกรีตเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักมากกว่า ( 2,400 กก./ ลบ.ม. โดยประมาณ ) ควรระมัดระวังในทุกขั้นตอนการทำงานเพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต และ ทรัพย์สิน
• ควรทำงานหรือเคลื่อนย้านคอนกรีตด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้เศษคอนกรีตกระเด็น และส่งผลทำให้เกิดอันตราย ต่อร่างกาย หรือทรัพย์สินได้


สินค้าที่ท่านสั่งซื้อประจำ
สินค้าที่ท่านเลือกดูล่าสุด